วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อึ้ง! เด็กไทยบริหารเงิน 100 บาทไม่เป็น บอก ‘จะซื้อผู้หญิงให้พ่อ‘


สสค.เปิดผลสำรวจทักษะของเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 พบเด็กไทยมีทักษะการเรียนรู้ที่ดี แต่ขาดทักษะชีวิตและการทำงานเป็นทีม ส่งผลทักษะการสื่อสารน้อยที่สุด ชี้สิ่งแวดล้อมในห้องเรียน ครูเน้นสอนวิชา ขาดการฝึกกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ส่งผลเด็กชอบฉายเดี่ยว เปิดคำถามเด็กไทย มีเงิน 100 บาทจะซื้ออะไรเป็นของขวัญ พบ 50% ไม่สามารถบริหารจัดการเงินได้ ขณะที่เด็ก 12 สะท้อน "ผมจะซื้อผู้หญิงให้พ่อ"
อึ้ง! เด็กไทยบริหารเงิน 100 บาทไม่เป็น บอก ‘จะซื้อผู้หญิงให้พ่อ‘
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ได้จัดกิจกรรมในงานวันเด็กแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจัดจุดทดสอบทักษะเด็กไทยว่ามีทักษะและความพร้อมหรือไม่สู่เด็กยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งถือเป็นทักษะสำคัญที่ทั่วโลกและประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียนให้การยอมรับ พร้อมกับมีความตื่นตัวในการพัฒนาการศึกษาเพื่อเตรียมเด็กของประเทศตนเองให้มีทักษะดังกล่าวในการปรับตัวและสามารถแข่งขันในตลาดยุคไร้พรมแดน โดยทักษะในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะชีวิตและอาชีพ และทักษะการสื่อสารและเทคโนโลยี
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้เชี่ยวชาญนโยบายด้านเศรษฐศาสตร์การศึกษา สสค. กล่าวว่า จากผลการวัดทักษะเด็กไทยในยุคศตวรรษที่ 21 ผ่านตัวอย่างฐานกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีเด็กเข้าร่วมการทดสอบทั้งสิ้น 407 คน พบว่า เด็กส่วนใหญ่มีทักษะในศตวรรษที่ 21 ในระดับที่ดี คะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.5-3.7 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งทักษะด้านการเรียนรู้มีคะแนนสูงสุด ขณะที่ทักษะด้านการสื่อสารมีคะแนนน้อยที่สุด โดยพบว่า เด็กผู้หญิงมีทักษะทั้ง 3 ด้านดีกว่าเด็กผู้ชาย ขณะที่เด็กกลุ่มอายุของเด็กระหว่าง 5-9 ปี และกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 10-15 ปี สามารถทำคะแนนในทักษะทั้ง3 ด้านไม่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับเด็กที่มาจากโรงเรียนของรัฐและเอกชนก็มีคะแนนทักษะที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามเด็กที่อยู่ในโรงเรียนเอกชนจะมีทักษะการเรียนและและนวัตกรรมได้ดีกว่าเด็กที่อยู่โรงเรียนของรัฐ รวมทั้งเด็กที่อยู่ในกทม.จะมีทักษะด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีที่ดีกว่าเด็กที่อยู่นอกเขต กทม.
นางสุนีย์ ชัยสุขสังข์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาองค์กรและเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงเรียนดรุณสิกขาลัย หนึ่งในคณะทำงานร่วมทดสอบการประเมินทักษะของเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 กล่าวว่า เด็กไทยมีทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมได้ดี แต่มีปัญหาเรื่องการทำงานเป็นทีม ซึ่งอยู่ในกลุ่มทักษะชีวิตและอาชีพ จึงส่งผลต่อทักษะด้านการสื่อสาร เด็กส่วนใหญ่อยากคิดแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ปฏิเสธการถามความเห็นและทำงานร่วมกับผู้อื่น ทั้งที่ทักษะการทำงานร่วมกันถือเป็นคุณลักษณะที่ตลาดแรงงานและบริษัทชั้นนำของโลกต้องการ โดยพบว่าสิ่งแวดล้องทางการศึกษาเป็นตัวหล่อหลอมให้เด็กเป็นเช่นนี้ที่ต่างคนต่างเรียน ไม่มีกิจกรรมฝึกให้เด็กทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงค่านิยมการแข่งขัน ดังนั้นสิ่งที่เริ่มง่ายที่สุดคือ ครู เพราะโรงเรียนยังเป็นสภาพแวดล้อมที่จัดขึ้นได้และควบคุมได้มากกว่าบ้านที่มีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง โดยครูควรกระตุ้นกิจกรรมเป็นกลุ่มให้มากขึ้น รวมถึงการให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสาเพื่อเปิดรับทักษะทางสังคมให้ดียิ่งขึ้น
นายเฉลิมพล สุลักษณาการ นักวิชาการอิสระ หนึ่งในคณะทำงานร่วมทดสอบการประเมินทักษะของเด็กไทยในศตวรรษที่21 กล่าวว่า สิ่งที่พบจากฐานกิจกรรมวัดทักษะในฐานกิจกรรม"ฉลองวันเกิด" โดยให้เด็ก 2 ช่วงวัยคือ 7-9 ปี และ 10-12 ปี ออกแบบว่า หากมีเงิน 100 บาท จะซื้ออะไรเป็นของขวัญวันเกิดให้แม่ พบว่า เด็กส่วนใหญ่ถึง 50% ไม่สามารถบริหารจัดการเงินได้ว่าจะนำเงินไปซื้ออะไร ส่วนใหญ่ตอบว่าจะนำไปซื้อนาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แหวนและเครื่องประดับให้แม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมูลค่าของเงินที่มีอยู่ไม่สามารถซื้อได้ เด็กบางคนที่มีทักษะการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์จะฉายแววออกมา เช่น จะเอาเงินไปซื้อไม้ไอศกรีม เพื่อทำกล่องดินสอให้แม่ที่มีกล่องเดียวในโลก
อย่างไรก็ตาม เด็กยังสะท้อนภาพความเป็นจริงในครอบครัว มีเด็กชายวัย 12 ปี ตอบว่า "จะนำเงินไปซื้อผู้หญิงให้พ่อ เพราะไม่มีแม่" หรือเด็กบางคนตอบว่า "เอาเก็บไว้กับตัวเอง เพราะเงินหายาก" สะท้อนให้เห็นว่า การเรียนรู้ของเด็กยังขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม พ่อแม่ที่มีฐานะส่วนใหญ่มักเลือกซื้อของตามที่เด็กต้องการ ขาดการฝึกให้เด็กได้ลองบริหารจัดการเรื่องเงินทำให้ไม่สามารถประเมินมูลค่าของที่แท้จริงได้

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การเคี้ยวทำให้ความจำดีแม่นขึ้น


       เราอาจจะได้ยินกันมานานว่าการเคียวหมากฝรั่งทำให้ความจำดี หลายคนอาจสงสัยว่ามันช่วยยังไง แต่ว่าเค้ามีงานวิจัยรับรองนะคะ     

 ผลวิจัยพบว่าคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งมีความจำดีกว่าคนไม่เคี้ยวเพราะการเคี้ยวช่วยการเต้นของหัวใจ ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงสมองมากขึ้นการเคี้ยวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหมุนเวียนโลหิต และออกซิเจนสู่สมองได้ถึงร้อยละ 46.3

       นอกจากนั้นยังกระตุ้นการผลิตอินซูลิน ทำให้เซลล์สมองเปิดรับกลูโคสจากกระแสเลือด มาเลี้ยงสมองส่วนที่เป็นความจำได้มากขึ้น สรุปว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ เป็นผลดีกับ สมองจริง แต่ไม่จำเป็นต้องเคียวหมากฝรั่ง เคี้ยวอาหารอย่างน้อย 20 ครั้งก่อนกลืนก็ช่วยให้สมองดีได้ และช่วยในการย่อยได้ด้วย ถ้าเพื่อสุขภาพแท้จริงแล้ว ควรเคี้ยว 50 ครั้ง ก่อนการกลืนแต่ละคำ 

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

คลิปหนัง ชนวนเหตุประท้วงรุนแรงในลิเบีย


คลิปตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาให้ได้ชมในเว็บไซต์ยูทูปที่กลายเป็นชนวนเหตุสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่ชาวมุสลิมถึงขั้นก่อให้เกิดการประท้วง และก่อเหตุรุนแรงในสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศลิเบียจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุประท้วงดังกล่าวถึง 4 คนด้วยกัน หนึ่งในนั้นมี คริสโตเฟอร์ สตีเว่นส์ ทูตสหรัฐฯ ประจำลิเบียรวมอยู่ด้วย เนื่องจากไม่พอใจในเนื้อหาของหนังที่ต้องการนำเสนอ
Innocence of Muslims คือตัวอย่างหนังที่เป็นชนวนเหตุในการเกิดเรื่องดังกล่าว ตามข้อมูลแจ้งว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังอิสระผลงานของ แซม เบซิล นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวสหรัฐฯ ใช้งบในการสร้างราว 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างหนังเรื่องนี้ก็เพื่อใช้ในการต่อต้านศาสนาอิสลาม และล้อเลียนเรื่องราวชีวิตของนบีมุฮัมมัด เนื้อหาของหนังเป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตของนบีมุฮัมมัดในฐานะคนธรรมดาและมีประเด็นของรักร่วมเพศ รวมถึงการส่งเสริมทาสเด็กและการคบชู้ ต่อมาสื่อในประเทศอียิปต์ได้พูดถึงและถูกกระจายในประเทศมุสลิมจนเรื่องลุกลามใหญ่โตยากต่อการควบคุม
ทั้งนี้ ยังไม่มีการออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหนังเรื่องนี้เวอร์ชั่นเต็มมีอยู่จริงหรือไม่ หรือจริงๆแล้วหนังเรื่องนี้มีแค่ที่ปล่อยออกมาเท่านั้น


วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

กังนัม สไตล์” แดนซ์กระจาย ที่แท้มาจาก...?


นอกจากเจ้าพ่อท่าควบม้าขาแดนซ์ “กังนัม” จะดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้ว หนูน้อยน่ารักในมิวสิคก็เป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์
ล่าสุดได้มีการเผยถึงที่มาของหนูน้อยขาแดนซ์ที่อยู่ในมิวสิควิดีโอเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าชื่อจริงคือ ฮวางมินวู เป็นลิตเติลบอยที่มีความสามารถด้านการเต้นเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นที่รู้จักมาแล้วจากการออกรายการ Star King ทางสถานี SBS และรายการ Korea's Got Talent ทาง tvN
ทั้งนี้ มิวสิควิดิโอตัวนี้มียอดวิวในยูทิวบ์มากถึง 72 ล้านวิว และยังติดอันดับถึงอันดับที่ 44 ใน iTunes ท็อป ซิงเกิล ชาร์ท และขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ท Youtube 100 อีกด้วย...ของเค้าแจ่มจริงๆ นะ เพลง “กังนัม สไตล์” เนี่ย ใครไม่ได้ดูตกเทรนด์ไม่รู้ด้วย

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไข่แดง ภัยร้ายเทียบเท่าบุหรี่


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ไข่แดง มีผลทำร้ายคุณได้เท่ากับการสูบบุหรี่เลยทีเดียว

ผลการวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารแอเทอโรสเคลอโรซิส เตือนผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีว่า การบริโภคไข่แดงนั้นจะยิ่งเร่งให้ผนังหลอดเลือดแดงหนาขึ้น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงโรคหัวใจ ในรูปแบบเดียวกันกับการสูบบุหรี่ ตรงข้ามกับผู้ที่ไม่พ่นควัน หรือแทบไม่กินไข่แดง ผนังหลอดเลือดคาโรติดหนาขึ้นหลังอายุ 40 ปี แต่เป็นไปอย่างคงที่ช้าๆ โดยแนะนำว่า การจำกัดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจนั้น ควรจำกัดการรับคอเลสเตอรอลเข้าร่างกายไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งไข่แดง 1 ฟองก็มีคอเลสเตอรอลเกินกว่า 200 มิลลิกรัมแล้ว
ส่วนผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน คอเลสเตอรอลสูงหรือหลอดเลือดสมอง ก็ควรจำกัดการบริโภคคอเลสเตอรอลไม่ให้เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน เช่นกัน

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

พบเชื้อโรคระบาด องค์การอนามัยโลกประกาศ


สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในยูกันดา ได้ออกมาประกาศพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส อีโบลา ในเมืองทางตะวันตกของประเทศยูกันดา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 14 ราย และเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อกันได้เร็วและง่ายมาก
เจ้าหน้าที่จากองค์กรอนามัยโลก(WHO)ในประเทศอูกันดา ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส อีโบลา ที่เมืองคิบาล ห่างจากกรุงกัมปาลา เมืองหลวงของประเทศอูกันดา ไปทางภาคตะวันตกประมาณ 200 กิโลเมตร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน ส่วนอาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ จะมีอาการไข้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดหัว ตาแดง และมีเลือดออกตามช่องเปิดของร่างกาย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ออกมาประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ รวมถึงของใช้ส่วนตัวของผู้ติดเชื้อและห้ามรับประทานสัตว์ที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากเชื้อไวรัสอีโบล่าเป็นเชื้อที่ติดต่อได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงจากของเหลวในร่างกายและเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถติดต่อกันได้เร็วและง่ายมาก
(แหล่งที่มา มติชนออนไลน์

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กินรกเด็ก?


พยาบาลในจีนมักจะสอบถามหญิงใกล้คลอดว่าต้องการเก็บรกในครรภ์ไว้สำหรับรับประทานเพื่อบำรุงสุขภาพหรือไม่...???
อาจฟังดูชวนสะอิดสะเอียน...แต่การกินรกเด็กภายหลังการคลอดบุตรเป็นเรื่องที่คนจีนเชื่อมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ส่วนตำราการแพทย์ในสมัยโบราณของจีนการันตีว่านี่แหละคือที่สุดของแหล่บำรุงร่างกาย และชาวตะวันตกก็เริ่มเชื่อว่ารกเด็กสามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าให้สตรีภายหลังคลอดบุตร แม่มีน้ำนมไหลมากขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มกำลังวังชา
“ตอนนี้มันอยู่ในตู้เย็นค่ะฉันรอให้แม่มาทำเป็นอาหารให้กิน พอล้างเสร็จแล้วก็เอามาเคี่ยวเป็นน้ำแกง ไม่เหม็นคาวเลย” คำบอกเล่าของ "หวัง หลาน" คุณแม่เพิ่งคลอด คงบอกได้อย่างชัดเจนว่าคนจีนส่วนใหญ่ยังนิยมกินรกเด็กสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีความคิดเห็นบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการกินชิ้นส่วนมนุษย์เช่นนี้ แต่มันอยู่ในตำราโบราณมานมนาน...เรื่องนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลนะ